Tweet แปลโดย:
'العربية / al-ʿarabīyah |
การสร้างผู้ จัดเตรียมคำแนะนำ สำหรับผู้ฝึกโดย ดร. ฟิล บาร์เทิลแปลโดย ปกิจจ์ แสงสว่างคู่มือของผู้ฝึกทำ อย่างไรเราจะเปลี่ยนคนธรรมดาๆ มาเป็นผู้จัดเตรียมของชุมชนได้?ถ้าการจัดชุมชนมีความสำคัญอยู่ที่การทำ ให้ชุมชนเข้มแข็ง, ทำไมเราถ่ายทอดทักษะการจัดเตรียมให้แก่ผู้ที่มีความสนใจอยากเรียนรู้ที่จะทำ มันเอง? เอกสารการฝึกฉบับนี้จะช่วยแนะนำผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่มีศักยภาพได้เรียนรู้ เกี่ยวกับหลักการและทักษะต่างๆ ถ้าท่านต้องการจะทำการฝึกพวกเขา, ท่านต้องรู้วิธีการใช้คู่มือในบทนี้ โดยปกติ เราแนะนำให้ท่านได้ไปดูในบทที่เกี่ยวกับ วิธีการฝึกหัดซึ่งจะให้ข้อมูลทั่วๆ ไป ในเอกสารนี้จะเน้นไปที่ทักษะการจัดเตรียม ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างทักษะการจัดเตรียมทางการค้ากับทักษะการฝึกการจัดการแบบผู้ชำนาญการ นอกจากนี้เรายังแนะนำให้ท่านไปดูในบทที่เกี่ยวกับ ความรู้ตามหน้าที่ ซึ่งเราจะแนะนำผู้ฝึกว่าไม่ควรคัดลอกวิธีการดั่งเดิมไปทั้งหมด แต่เริ่มตั้งต้นด้วยพื้นฐาน และสร้างวิธีใหม่ขึ้นจากพวกเขา การฝึกปฏิบัติการ ในคู่มือสั้นๆ ฉบับนี้ เราแนะนำผู้ฝึกว่าสมาชิกชุมชนจะเรียนรู้ว่าวางแผนอย่างไรได้โดยปล่อยให้วาง แผนสักสองหรือสามแผน วิธีการแบบนี้สะท้อนถึงหลักการที่เราได้บอกกับท่านในการฝึกเป็นผู้นำการ เปลี่ยนแปลง เตือนให้ผู้ฝึกทราบว่าสถาบันการศีกษาแบบดั่งเดิมจะตั้งตารางเรียน และประเมินนักเรียนจากการที่ทำข้อสอบได้ดีแค่ไหน หรือให้ทำงานส่ง พวกเขาจะถูกประเมิน หรือตัดสินความสำเร็จจาก การที่เขาจะสามารถแสดงสิ่งที่เขาเรียนออกมาได้ดีแค่ไหน ใน การฝึกปฏิบัติการในทางตรงกันข้าม ผู้รับการฝึก และการวัดว่าพวกเขาเรียนรู้ทักษะที่จำเป็นได้ดีแค่ไหนควรถูกประเมินจากการกระทำของพวกเขาภายหลังการฝึก, ไม่ใช่โดยการสอบ, การเขียนเรียงความ หรือการทดสอบซึ่งแสดงให้เห็นเพียงความสามารถของพวกเขาในการผ่านการทดสอบเท่านั้น นี่คือ การฝึกแนวใหม่ สิ่งที่เราจะบอกกับผู้รับการฝึกก็คือ พวกเขาไม่ควรส่งสมาชิกชุมชนไปเข้าโรงเรียนเพื่อผ่านการทดสอบ แต่ปล่อยให้พวกเขาได้เรียนรู้โดยการกระทำ ประเมินพวกเขาจากสิ่งที่เขากระทำมากกว่าสิ่งที่พวกเขาได้เรียนรู้ ให้การฝึกของพวกเขาที่นี่เป็นการวางแผน และออกแบบแผนที่จะสามารถบรรลุถึงจุดมุ่งหมายที่เฉพาะเจาะจงของชุมชน ปล่อยให้พวกเขาได้จัดเตรียมการด้วยตัวพวกเขาเอง(ด้วยคำแนะนำจากผู้ฝึกของ เขาซึ่งจะเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงในชุมชนของพวกเขา)เพื่อที่จะบรรลุจุด มุ่งหมายของพวกเขาแปลงออกมาในรูปของ "โครงการ" ประเมินการฝึกของพวกเขาในแง่ที่ว่า พวกเขาสามารถเตรียมการเพื่อให้แผนของเขาสำเร็จได้อย่างไร ให้ผู้เข้ารับการฝึกรวมกลุ่มกันเป็น คล้ายชุมชน จัดให้พวกเขาได้ตัดสินใจ วางแผนการเปลี่ยนแปลงโดยรวมของความต้องการทั้งชุมชน และวางแผนโครงการชุมชน ใช้แผนของพวกเขาเป็นหัวข้อในการถกแถลง กัน ดึงจุดแตกต่างให้ผู้รับการฝึกเห็นถึงความแตกต่างระหว่าง (1) การจัดเตรียมการตกลงใจ และ (2) การจัดเตรียมการปฏิบัติการ ดึงเอาหลักการพื้นฐานหลายๆ อย่างจากที่พวกเขา และท่านได้ทำร่วมกันในการจัดเตรียมและการวางแผนของพวกเขา ในการฝึกเชิงประชุมปฏิบัติการ, การประเมินจะขึ้นกับว่าพวกเขาวางแผนได้ดีแค่ไหน ในภาพรวมการทำงานของท่านแล้ว การประเมินผลของพวกเขาจะขึ้นกับการที่เขาจะกระตุ้นให้สมาชิกชุมชนได้เลือก และวางแผนโครงการชุมชนได้ดีขนาดไหน จัดตั้งคณะบริหาร นี่อาจเป็นส่วนที่สนุกสนานได้ ใช่ เปิดตาให้กว้างไว้ มันใช้ได้ผลในกลุ่มที่มีคนอย่างน้อย 20 คน ท่านอาจเก็บเอาไว้หลังการวางแผนของ ชุมชน และการออกแบบโครงการ หรือไม่ก็ผสมผสานเข้าไปพร้อมกัน การฝึกทั้งหมดสำหรับบทเรียนนี้อาจถูกจัดเตรียมให้เป็นการฝึกผสมผสานไปพร้อม กัน ซึ่งอาจต่อเนื่องทั้งวัน ทั้งช่วงพักกลางวัน และพักประจำชั่วโมง ข้อสังเกตพื้นฐานก็คือ ท่านต้องสมมุติทั้งกลุ่มให้เล่น โดยที่จะไม่มีใครที่จะมาแค่เป็นผู้ชมเฉยๆ(แขกพิเศษที่มาสังเกตุการณ์จะ ต้องเข้าร่วมในเกมด้วย ไม่ใช่แค่ไปยืนคอยดู เพราะการทำเช่นนั้นเป็นการรบกวนความสร้างสรรค์ และความหลากหลายและนวัตกรรมที่จะเกิดขึ้นจากการทำกิจกรรม). บทเรียนคือ ให้ทั้งกลุ่มแสดงเป็นชุมชน ให้เลือกผู้บริหารเพื่อทำแผนสำหรับชุมชนทั้งหมด และออกแบบโครงการแรกของชุมชน ในลักษณะที่สมาชิกทุกคนของชุมชนต้องมีส่วนร่วมในกระบวนการ การวางสถานการณ์เป็นกระบวนการหนึ่งของ การฝึกแบบสมมุติการแสดง การทบทวนหลังการปฏิบัติและการถกแถลงหลังเหตุการณ์เป็นสิ่งที่จำเป็นในการฝึก ในการถกแถลงพยายามถามว่ามีอะไรบ้างที่สามารถใช้เป็นบทเรียนของเราเมื่อเราไป ทำหน้าที่เปลี่ยนแปลงหรือจัดเตรียมในการทำงานจริง มันเป็นส่วนประกอบที่มีประโยชน์ในการ ชี้ให้คนหนึ่งคนเล่นบทบาทที่มอบ และให้หนึ่งหรือสองคนแสดงเป็น"ผู้ให้คำแนะนำ"แก่คนๆ นั้น"ผู้ให้คำแนะนำ"เป็นผู้ขอเวลานอกเพื่อให้คำแนะนำแก่คนทีสวมบทบาท และใช้เวลาพิเศษในการสอนให้ผู้สวมบทบาทเล่นบทของ ผู้แสดงความสนใจ, ทำให้สนุก, หรือแม้แต่กริยาที่ดูตลก ท่านเป็นผู้สร้างสถานการณ์ที่จะให้ กลุ่มได้ทำงาน ในสถานการณ์ท่านต้องชี้ตัวผู้ที่เป็นหัวหน้าซึ่งอาจเป็น หัวหน้าอยู่ดั้งเดิม และที่ปรึกษา หรือเทศมนตรี หรือกลุ่มที่ปรึกษา อะไรก็ตามที่ผู้นำการเปลี่ยนแปลงอาจไปเจอในพื้นที่ปฏิบัติงานจริง นี่อาจเป็นการที่คนหนึ่งสวมบทบาทและเป็นผู้ให้คำแนะนำสองคน หรือ สองหรือสามคนเป็นคนสวนบทบาท กับอีกหนึ่งหรือสองคนเป็นผู้ให้คำแนะนำ ขึ้นอยู่กับขนาดของกลุ่มผู้รับการฝึก ในชุมชน ท่านจะต้องชี้ให้เห็นถึงสมาชิกชุมชนที่มีความหลากหลาย ให้แน่ใจว่าท่านได้รวมประเภทของคนที่มักจะถูกลืมในกระบวนการของชุมชนไว้ด้วย คนพวกนี้อาจเป็นผูหญิง, คนพิการ, สมาชิกที่เป็นชนกลุ่มน้อย, กลุ่มนับถือศาสนากลุ่มน้อยในพื้นที่อนุรักษ์ พวกเขาอาจเป็นผู้สูงอายุ และผู้กระทำผิด หรือผู้เคยถูกกล่าวหาในสังคมแบบตะวันตก หลักการข้อหนึ่งก็คือ – ท่านต้องอธิบายให้กลุ่มทราบในขณะที่ทำ หรือขณะที่ช่วยแนะนำพวกเขาทำ คือการที่พยายามสมมุตให้คนๆ นั้นเป็นสิ่งที่เขาไม่สามารถเป็นได้ในชีวิตจริง ให้ผู้ชายแสดงบทบาท"ผู้หญิง"" ให้คนที่มีสุขภาพดีแสดงเป็น"ผู้พิการ"ให้ คนขี้อาย คนเงียบๆ แสดงเป็นนักการเมืองท้องถิ่นที่มีความกระตือรือล้นพยายามที่จะใช้กระบวนการ จัดตั้งเพื่อประโยชน์ทางการเมืองของตนเอง ซึ่งจะนำพวกเราไปสู่สถานการณ์ที่เป็นส่วน ประกอบอีกอันหนึ่ง สร้างบทบาทคนที่จะเป็นคนขว้าง "กุญแจขันน๊อต"เข้าไปสู่เครื่องจักร(1) ให้สมาชิกคนหนึ่งแสดงเป็นผู้ที่ต้องการหลอกล่อกระบวนการในการจัดตั้งไปสู่ สิ่งที่ตนปรารถนา ผู้แสดงคนนี้อาจเป็นอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนท้องถิ่น ผู้ซึ่งพยายามที่จะชักชวนให้กลุ่มเชื่อว่าสิ่งที่พวกเขาต้องการมากที่สุดคือ โรงเรียนใหม่ บันทึกย่อ: วลี"การขว้างกุญแจขันน๊อตเข้าไปในงาน"เป็น คำสะแลงมาจากพวกช่างและช่างเทคนิกหมายถึงการทำบางอย่างที่ทำให้งานไม่ราบ รื่น ซึ่งจะทำให้กระบวนการที่ราบรื่นหยุดลง หรือผิดความประสงค์ไป กุญแจขันน๊อตที่จริงเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ใช้ขันน๊อตให้หลวมให้แน่น ได้ แต่มันจะกลายเป็นอุปสรรคอันใหญ่ และก่อความเสียหายได้ถ้าถูกขว้างลงไปในเครื่องจักรที่กำลังทำงานอยู่ ให้แน่ใจว่าคนที่เล่นเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง มีผู้ให้คำแนะนำอย่างน้อยสองคน หรือให้ผู้นำการเปลี่ยนแปลงสองคนทำงานร่วมกันที่จะจัดตั้งชุมชน นี่คือคนที่จะต้องตอบโต้ต่อผู้ที่ทำตัวเป็นกุญแจขันน๊อตที่ขว้างลงในเครื่อง จักร ซึ่งการจะทำอย่างนั้นได้ต้องมีความเข้มแข็ง และประสบการณ์ อีกตัวเลือกนึงที่เพิ่มเติมเข้าไปก็คือ ผู้นำที่มีอยู่ฉ้อโกง, ที่ปรึกษา หรือผู้สูงอายุ(เป็นบทบาทในเกมส์)ผู้ซึ่งพยายามที่จะทำให้กระบวนการ มีความโปร่งใสน้อยลง และซ่อนอยู่หลังฉากที่เขาหรือเธอจะสร้างผลประโยชน์จากกระบวนการจัดตั้งได้ บทบาทตัวเลือกอีกอย่างคือ บทสมาชิกชุมชนที่ขี้เกียจหรือเฉื่อยชา ยกเว้นแต่ว่าที่นี่การแสดงตนเป็นคนพวกนี้ชัดเจนแตกต่างจากความเป็นจริง คนกลุ่มนี้อาจหายตัวไปเฉยๆ โดยไม่ใส่ใจใดๆ ถกแถลงถึงบทบาทเหรัญญิกภายในกลุ่ม เลือกบทบาทสองอันที่สามารถเป็นเหรัญญิกของคณะบริหารได้ คนแรกเป็นครูที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับบัญชี แต่มาจากต่างถิ่น และไม่มีความผูกพันใดกับชุมชน และไม่มีมาตรการใดสำหรับชุมชนที่จะใช้มาตรการทางสังคมที่จะควบคุมความซื่อ สัตย์ได้ (คนนี้ต้องการที่จะยึดครองเงินไว้ แล้วหนีไป เมื่อเขาหรือเธอมีโอกาส) อีกคนเป็นคนแก่ที่ไม่รู้หนังสือ, ผู้หญิง, คนที่สามารถนับได้แต่ไม่สามารถอ่านออก และมีชื่อเสียงในด้านความเป็นที่ไว้วางใจ ซื่อสัตย์ และเชื่อถือได้ในชุมชน เธอต้องการสิ่งที่ดีที่สุดให้ชุมชน และพร้อมที่จะทำสิ่งที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ของชุมชน หน้าที่ของกลุ่มนี้, สอนและให้คำแนะนำแก่ผู้ที่รับบทบาททั้งหมดในกระบวนการ, คือการชี้ให้เห็นว่าจะเลือกผู้บริหารอย่างไร, ใครบ้างที่ควรเป็นกรรมการบริหาร เตือนกลุ่มให้ทราบว่าการเลือกตั้ง ,รวมถึงการลงคะแนนลับซึ่งถือเป็นการแบ่งพวกในหลายๆ สังคม, และการค้นหาจากมติผ่านการถกแถลงมักเป็นที่ยอมรับมากกว่า การหามติ ก็สามารถเป็นบทบาทที่สอนได้ ในบทบาทต่างๆ ผู้เล่นมากมายที่สามารถสร้างขึ้นมาตามตำแหน่ง และทั้งหมดสามารถประเมินผลพวกเขาได้ การพูดคุยกันในหลากหลายมิติจะส่งผลช่วยให้ผู้รับการฝึกได้เข้าใจกระบวนการ ที่พวกเขาจะถูกกระตุ้นในสนามปฏิบัติจริง การถกแถลงควรมุ่งประเด็นที่การเลือกผู้บริหาร ที่จะจัดการกระบวนการมอบอำนาจที่ชุมชนได้เลือก การประชุมดังกล่าวสามารถขยาย, หลังจากช่วงพัก, รวมเอาการพัฒนาแผนปฏิบัติการชุมชน และการออกแบบโครงการแรกของชุมชนลงไปในแผน การประเมินสภาพ ในส่วนนี้ (การประเมินการมีส่วนร่วม) สามารถใช้เบรคความต่อเนื่องระหว่างส่วนที่เลือกผู้บริหาร และการทำแผนปฏิบัติการชุมชน ในการทำงานชุมชน กระบวนการประเมินผลควรมาก่อนการวางแผน ในมุมมองการพัฒนาทักษะ, การฝึกและการอธิบายของ วิธี PRA or PAR, ที่ได้ถูกคิดขึ้นที่เมืองซัสเซสที่ม.โคลัมเบีย, จะเป็นประโยชน์อย่างมาก ถ้าท่านสามารถหาผู้เชี่ยวชาญด้าน PRA/PAR เข้ามาเป็นผู้บรรยายในการประชุมเชิงปฏิบัติการ ก็จะเป็นแนวทางที่ดีที่สุด ขณะเดียวกัน เป็นโอกาสที่ดีของผู้เข้าอบรมเชิงปฏิบัติที่จะได้ออกสนาม คุณต้องการ(สองสามอาทิตย์ก่อนการฝึก)ติดต่อกับผู้นำชุมชน หรือคนงานในชุมชน ชุมชนอาจเป็นในเมืองหรือนอกเมืองก็ได้ ระหว่างการประชุม พาทั้งกลุ่มไปดูบรรยากาศเพื่อนบ้าน การไปดูไม่ใช่เป็นเพียงการท่องเที่ยว เท่านั้น เตรียมผุ้รับการฝึกก่อนหน้าโดยบอกพวกเขาให้คิดว่าตัวเองเป็นผู้อยู่อาศัยใน ชุมชนนั้น และเป็นสมาชิกในชุมชนที่จะไปเยี่ยมเยียน พวกเขาควรจะทิ้งบทบาทที่ได้รับก่อนหน้า และหลังการฝึกไปก่อน และคิดเพียงว่าตนเป็นผู้อาศัยในชุมชน อธิบายพวกเขาว่าในระหว่างการเยี่ยมชม ให้พวกเขาจดบันทึก และทำร่าง และหลังจากการเยี่ยมเยียนแล้วพวกเขาจะมารวมกันเพื่อทำแผนที่ความคิด และประเมินทั้งแง่บวก และลบจากสิ่งที่ได้ไปสังเกตมา ส่วนที่เป็นแง่บวก จะรวมศักยภาพ และแหล่งทรัพยากรที่จะสามารถใช้ได้ในโครงการชุมชน ทางด้านลบมักจะเป็นรายการสาธารณูปโภคที่เสีย และบริการชุมชนที่เสียหาย การที่จะนำเอาคนงานที่มีประสบการณ์ใน ชุมชนร่วมไปกับการเยื่ยมเยียนด้วยก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ถ้าเลือกทำก็ให้ใช้ประสบการณ์ของคนงานในชุมชนนั้นเป็นทรัพยากรบุคคลในการ เขียนประเมินของกลุ่มด้วย อย่าใช้เธอหรือเขาให้นำเสนอในห้วงเวลานี้ กลุ่มได้รับงานให้เขียนประเมิน รวมทั้งภาพร่างของละแวกที่ไปเยี่ยมเยียน ท่านอาจแบ่งผู้รับการฝึกออกเป็นกลุ่มละ สี่ถึงห้าคน ขึ้นกับจำนวนผู้เข้าอบรม แต่ละกลุ่มให้มองประเมินในแง่มุมที่แตกต่างกัน เตือนพวกเขาว่า กลุ่มเล็กไม่ใช่กลุ่มถกแถลง แต่เป็นกลุ่มทำงาน และต้องทำการผลิตส่วนประกอบของการประเมินชุมชน จัดเตรียมปากกาและกระดาษ และกระดานในการทำงาน หากจำเป็น นำกลุ่มทำงานมารวมกัน พวกเขาต้องนำเอาผลงานมารวมกันให้ได้ผลการประเมินรวม ท่านนำทั้งกลุ่มมารวมกันเพื่อถกแถลงผลประเมินรวมเมื่อเสร็จแล้วเท่านั้น กลุ่มถกแถลงผลการประเมินภายหลังนี้เป็นเพียงตัวเลือก อาจกระทำเมื่อมีเวลามากเพียงพอ การทำการประเมินเป็นข้อเขียนเป็นส่วนที่สำคัญมากที่สุดในกระบวนการสำหรับผู้ รับการฝึก การนำเอาผู้เชี่ยวชาญเรื่อง PRA/PAR เข้ามาอาจทำก่อนหรือหลังการไปเยี่ยมก็ได้ การวางแผนปฏิบัติการชุมชน และการออกแบบโครงการ ระหว่างผู้อยู่อาศัยในหลายๆ(โดย เฉพาะในชนบท)ชุมชน, และระหว่างผู้นำการเปลี่ยนแปลงซึ่งไม่ได้รับการฝึก และไม่มีประสบการณ์ มักจะมีความสับสนกันบ่อยๆ ระหว่างแผนปฏิบัติการ และโครงการของชุมชน เป็นเพราะว่ากิจกรรมการพัฒนาชุมชนในอดีตนั้น ผู้ทำการพัฒนาทำงานวางแผนทั้งหมด และสมาชิกชุมชนได้แต่ถูกเรียกมาเพื่อใช้แรงงานฟรีเท่านั้น ด้วยเหตุผลดังกล่าาว มักมีการต่อต้านแรงงานในชุมชนโดยเฉพาะจากกลุ่มเก่าๆ เพราะว่าการพัฒนาชุมชนกลับถูกเข้าใจไปในแบบที่ผิดไปเป็นรูปแบบของแรงงาน ทาส กรรมกร ท่านต้องทำให้แน่ใจว่าผู้รับการฝึกเข้า ใจตรงกันเพื่อที่จะส่งต่อข้อความนั้นให้กับสมาชิกของชุมชน ว่า สมาชิกชุมชนเองที่ต้องจัดการ และทำการวางแผนหากพวกเขาต้องการที่รักษาพยาบาล หรือโรงเรียน หรือจุดจ่ายน้ำ หรือการควบคุมผู้ให้เช่าบ้านในชุมชนให้เช่าบ้านในราคาที่ยุติธรรม มันไม่ใช่หน้าที่ของแรงงานในชุมชน ก็เพราะว่ามันไม่ง่ายที่จะทำให้ผู้อาศัยในชุมชนมีความรับผิดชอบ และมาช่วยกันวางแผนเพื่อให้งานลุล่วง จึงกลายเป็นว่าผู้นำการเปลี่ยนแปลงเข้าครอบงำ และทำมันเสียเอง ซึ่ง ผิด เมื่อท่านเริ่มฝึกในส่วนนี้ ท่านสามารถต่อจากการแสดงบทบาทด้วยการที่ท่านเลือกผู้บริหาร บางบทบาทสามารถเปลี่ยนแปลงได้ เราหวังว่าชุมชนคงจะเลือกหญิงแก่ไม่รู้หนังสือมากกว่าคนมีการศึกษาที่ไม่ใช่ สมาชิก ดังนั้นผู้รับการฝึกจะได้รับมอบหมายบทบาทใหม่ บุคคลที่ครอบครองผลประโยชน์และต้องการที่จะชักจูงกระบวนการให้เป็นไปตามจุด หมายของตนยังคงต้องแสดงบทบาทต่อไป เก็บเขาไว้ และบางทีอาจเพิ่มอีกสักสองสามคนที่มีความต้องการดังกล่าว บทบาทใหม่คือเป็นใครสักคนที่ต่อต้าน กระบวนการให้อำนาจแก่ชุมชนทั้งหมด และยืนยันว่าพวกเขาควรรอจนกว่า รัฐบาล)จะทำบางสิ่งเพื่อพวกเขา ในชีวิตจริง ในชีวิตจริงแล้ว คนที่ต่อต้านการมีส่วนร่วมของชุมชนมักเป็นพวกที่ได้ประโยชน์จากสิ่งที่เคย กระทำในอดีต เขาอาจจะเป็นผู้นำท้องถิ่น หรือเจ้าหน้าที่ที่การเลื่อนขั้นหน้าที่การงานขึ้นกับการจัดหาบริการให้แก่ ประชาชน แทนที่จะเพิ่มความเข้มแข็งให้แก่ประชาชนลุกขึ้นมาทำสิ่งต่างๆ เพื่อตัวพวกเขาเอง ครั้งนี้ ท่านให้คณะกรรมการบริหารนั่งที่โต๊ะด้านหน้าของห้อง, และบอกผู้รับการฝึกที่เหลือว่าพวกเขาเป็นสมาชิกของชุมชนซึ่งไม่ได้เป็นคณะ บริหาร พวกเขาสามารถเฝ้าสังเกตุการประชุมของคณะบริหารได้ และพวกเขาจะพบว่าหากสมาชิกของคณะบริหารไม่บอกพวกเขาว่าประชุมเรื่องใดมีความ เป็นมาเป็นไปอย่างไร พวกเขาจะไม่มีทางรู้การตัดสินใจของคณะบริหารได้เลย คณะบริหารต้องตกลงใจว่าพวกเขาจะบอกต่อ สาธารณะถึงสิ่งที่พวกเขาได้ตกลงใจหรือไม่ ตลอดเวลา จะพบสมาชิกทั่วไปของชุมชนไปที่โต๊ะหน้าห้อง และถามเรื่องราวเอาจากคณะบริหาร และก็โตัแย้งข้อตัดสินใจแต่ละอัน คนพวกนี้ได้แก่พวกที่มีหัวใจที่ต้องการเห็นความก้าวหน้าของชุมชน อีกพวกหนึ่งก็คือพวกที่มีจุดประสงค์ส่วนตัว ในขั้นตอนแรกของกระบวนการ คณะบริหารต้องทำแผนชุมชน ให้พวกเขาทำแผนห้าปีซึ่งไม่ได้เป็นกฏเกณฑ์ตายตัวแต่อย่างใด แผนจะต้องให้พื้นฐานจากสี่คำถามในคู่มือ ท่านสามารถจะนำกระดาษซึ่งเขียนคำถามทั้งสี่ไปแปะไว้ที่ผนัง สิ่งนี้เป็นสิ่งที่จะต้องทำแบบมืออาชีพ แผนอาจจะประกอบด้วยโครงการชุมชน 1 โครงการหรือมากกว่านั้น อาจรวมถึงโครงการที่เป็นนามธรรม เช่น แผนงานการทำให้รู้หนังสือ ท่านอาจเพิ่มบทบาทบางประการ(กับผู้ ให้คำแนะนำ)ของผู้วางแผนในระดับจังหวัด หรือผู้วางแผนในระดับภาค เขาจะยืนยันให้ชุมชนทำแผนให้เหมือนกับระดับที่ใหญ่กว่า ในขณะที่คณะบริหารโต้แย้งว่าระดับที่ใหญ่กว่าควรจะเป็นประชาธิปไตยโดยจะต้อง สนใจกับความต้องการของชุมชน การโต้แย้งในบทบาทดังกล่าวอาจดำเนินไปได้เป็นชั่วโมง และท่านอาจต้องเข้าไปขัดจังหวะเพื่อที่จะถกแถลงถึงความหมายโดยนัยของกรณีนี้ อย่างเต็มที่ หลังจากท่านจบในส่วนการจัดทำแผนปฏิบัติ การชุมชน ให้หยุดพัก การกระทำดังกล่าวเป็นการฝึกไปด้วยในตัว และไม่มีความจำเป็นที่จะต้องแสดงรายละเอียด นี่เป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะฉายภาพยนต์หรือวีดีโอ แล้วค่อยพักกลางวัน หรือจนกว่าจะถึงพรุ่งนี้ ส่วนที่เป็นการออกแบบโครงการชุมชนจะ เหมือนกับการทำแผน ท่านอาจต้องหมุนบุคคลเพื่อรับบทบาทหลายๆ บทบาท เพื่อให้ได้รับประสบการณ์ที่แตกต่างกัน และเพิ่มความตื่นตัวของผู้รับการอบรมเกี่ยวกับผู้เล่นที่หลากหลายในชีวิต จริง หากท่านต้องการใช้คู่มือมากกว่าที่ได้ ปรากฏในบทนี้ มีบทที่ว่าด้วยการออกแบบโครงการ ดู การออกแบบโครงการ. การจัดเตรียมสำหรับการปฏิบัติการ ส่วนนี้ เป็นเอกสารส่วนสุดท้ายในบท ในบท มุ่งที่จะบอกให้ผู้รับการอบรมทราบว่าองค์การจะต้องมีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน และวัตถุประสงค์จะบอกถึงโครงสร้าง และประวัติการก่อตั้ง ในหลายๆ ที่ของเว็บไซต์นี้ ได้เน้นว่าระดับการจัดตั้งกลุ่มเป็นปัจจัยที่แสดงถึงความเข้มแข็ง มันเป็น 1 ใน 16 ปัจจัยของความสามารถองค์การ ดู การวัดการให้อำนาจ หากผุ้รับการอบรมยังหนุ่มและมีพลังกาย ที่สมบูรณ์ ซึ่งควรเป็นอย่างนั้น ท่านจะสามารถใช้เกมส์กีฬาในการเป็นตัวอย่างกรณีนี้ได้ หารือรายละเอียดกับผู้รับการอบรม จัดการเล่นฟุตบอลหรือแฮนด์บอลในช่วงเวลาสั้นๆ แบ่งเป็นสองฝ่ายเท่าๆ กัน และเท่ากัน(เท่าที่ท่านรู้)ในแง่ของทักษะ และความแข็งแรง กลุ่มหนึ่งแบ่งตำแหน่งกันไป (เช่น ผู้ฝึกสอน, ประตู, กองหลัง และซ้าย, กลาง และหน้าซ้าย อีกกลุ่มหนึ่งจะต้องบอกให้ไม่ต้องแบ่งหน้าที่ตำแหน่ง และสมาชิกทุกคนจะต้องเล่นในทุกตำแหน่ง และผู้ที่ไม่ใช่ผู้เล่น(ผู้ฝึกสอน)ไม่อาจที่จะให้คำแนะนำได้ ให้เริ่มเล่นเกมส์ เกมส์น่าจะเป็นความไม่สามารถสู้กันได้อย่างชัดเจน ตอนท้ายของเกมส์ทำการถกแถลงการจัดของแต่ละทีมในกลุ่มทั้งหมด สมาชิกชุมชนส่วนใหญ่คิดไปว่าการจัดตั้ง เดียวที่เขาต้องทำคือคณะบริหาร มักมองข้ามว่าจะต้องจัดการอย่างอื่นอีกเพื่อที่จะให้แน่ใจว่าโครงการจะ ดำเนินไปได้และประสบผลสำเร็จ อาจเกิดคณะอนุกรรมการบริหาร ซึ่งอาจมีสมาชิกบางส่วนซ้ำกับคณะบริหาร และบางส่วนไม่ซ้ำ วัตถุประสงค์ของคณะบริหารเพื่อตกลงใจ เช่นชุมชนจะเดินหน้าไปในทิศทางใด และจะไปในที่ๆ เราต้องการได้อย่างไร วัตถุประสงค์ของคณะกรรมการนำนโยบายไปปฏิบัติเพื่อทำให้โครงการสำเร็จ สององค์กรสองวัตถุประสงค์ ดังนั้นจึงต้องมีสองบทบาทที่แตกต่างกัน นี่หมายถึง สมาชิกในชุมชนจะต้องรู้ว่าจะมีกิจกรรมที่แตกต่างกันเกิดขึ้นเพื่อทำให้แน่ใจ ว่าโครงการจะประสบผลสำเร็จ ในการตั้งตำแหน่งหรือบทบาทในคณะกรรมการนำนโยบายไปปฏิบัติ พวกเขาต้องรู้ว่าไม่ได้จัดตั้งองค์กรที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อการตกลงใจ แต่มีหน้าที่ที่จะต้องทำให้โครงการสำเร็จลุล่วง เป็นการจัดองค์กรเพื่อการปฏิบัติงาน ยังมีอีกหลายสิ่งที่จะต้องทำก่อนหน้าที่โครงการจะเสร็จสิ้น พวกเขาต้องชี้ตัวบุคคลให้ชัดและต้องบอกว่าแต่ละคนมีหน้าที่ต้องทำอะไร การออกแบบโครงการควรรวมเอารายละเอียด ของแต่ละหน้าที่ที่หลากหลาย และผลลัพธ์ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของแต่ละหน้าที่ไว้ด้วย คณะกรรมการนำนโยบายไปปฏิบัติควรมีการพบปะกันบ่อยครั้งกว่าคณะกรรมการบริหาร ในระหว่างกำลังดำเนินโครงการเช่น การก่อสร้างสมาชิกแต่ละคนซึ่งมีความรับผิดชอบแต่ละหน้าที่จะรายงานผลตาม ความรับผิดชอบของตน ท่านอาจจะจัดให้มีการเล่นบทบาทอีกครั้ง ในการจัดทำแผนปฏิบัติการชุมชน และการออกแบบโครงการ ด้วยการขยายส่วนออกไป จัดตั้งคณะกรรมการซึ่งจัดขึ้นเพื่อการปฏิบัติงานให้โครงการสำเร็จลุล่วง ซึ่งตรงข้ามกับคณะกรรมการบริหารที่ออกแบบมาให้ตกลงใจ หรือชี้ช่องทางให้แก่ชุมชน ยังมีวิธีอีกมากมายที่จะผสมผสานในส่วน นี้ และก็ขึ้นกับท่าน(บางทีท่านอาจหารือกับผู้รับการอบรม)เพื่อที่จะดู ว่าจะฝึกกันอย่างไร สรุป ด้วยเอกสารทั้งห้าบท และเอกสารส่วนนี้ที่มุ่งเน้นการจัดองค์การท่านควรที่จะนำเอาประชาชน ที่ไม่เคยเป็นผู้จัดระเบียบ กลายเป็นผู้ที่สามารถจัดระเบียบได้ และมันยังเป็นกระบวนการในการคัดเลือกด้วยตัวของมันเอง ทำให้บุคคลแต่ละคนได้เห็นสิ่งที่เราต้องการ และอนุญาตให้คนที่ไม่ประสงค์หรือไม่สามารถทำตามที่เราต้องการได้มีโอกาสที่ จะล้มเลิกไปอย่างนุ่มนวลและเงียบเชียบอีกด้วย < ––»«––หากคุณคัดลอกข้อความจากเว็บไซต์นี้ กรุณาระบุชื่อผู้เขียน |
หน้าแรก |
กลับไปยังหน้าหลักสูตรแนะนำ |